การทำกายภาพกระดูกสันหลังคด เป็นกระบวนการทางเวชศาสตร์ โดยเป็นการทำกายภาพบำบัดที่ใช้ในการรักษาและฟื้นฟูปัญหาของสันหลังคดหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังคด เช่น กระดูกสันหลังไม่อยู่ในสภาวะปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคแผลเยื่อหุ้มประสาทหลอดสมอง (Multiple Sclerosis) หรืออาการอื่นๆที่ทำให้การทำงานของกระดูกสันหลังคดไม่ปกติ
การทำกายภาพกระดูกสันหลังคด เริ่มต้นจากการปรับการทรงตัวและการบริหารกล้ามเนื้อ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของสันหลัง เช่น การยืดเส้นกล้ามเนื้อบริเวณหลัง การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การนวดเพื่อบรรเทาอาการปวด และเทคนิคการบำบัดอื่น ๆ ที่ช่วยในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ โดยผู้ป่วยก็สามารถทำได้ด้วยตนเองเช่นกัน
ท่าทำกายภาพกระดูกสันหลังคด ที่สามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้าน
- ท่าที่ 1 สำหรับท่าแรก ให้ใช้ยางยืดสำหรับการกายภาพบำบัดโดยตรง เพื่อช่วยในการกายภาพกระดูกสันหลังคด โดยจะต้องมีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร หรือ 1 เมตร ท่าแรกให้นั่งบนเก้าอี้แล้วนั่งหลังตรง แขม่วท้อง จับยางยืดด้วยมือทั้งสองแล้วออกแรงดึงให้ได้มากที่สุด โดยจะต้องมีระยะห่างประมาณหนึ่งช่วงตัว จากนั้นให้หนีบสะบักด้านหลัง ค้างท่านี้ไว้ประมาณ 10-15 วินาที และทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
- ท่าที่ 2 ทำคล้ายกับท่าแรก โดยดึงยางยืดยกให้สูงขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นให้เอนบริเวณศอกไปทางด้านหลัง นั่งให้หลังตรงมากที่สุด แขม่วท้อง และค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที และทำซ้ำประมาณ 10 ครั้ง
- ท่าที่ 3 ท่ากายภาพกระดูกสันหลังคดที่ 3 จะเป็นท่าแบบนอนราบ โดยให้ผู้ป่วยนอนราบไปกับพื้น จากนั้นให้ทำท่างุ้มไหล่ หมุนมือเข้าข้างลำตัว ผายหัวไหล่ออก และแอ่นลำตัวขึ้น ทำท่านี้ซ้ำ ๆ ไปประมาณ 20 ครั้ง เป็นการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณหลังให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น
- ท่าที่ 4 ให้นอนราบเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเป็นการชันเข่าขึ้น แอ่นเอวขึ้น และกดเอวลง ทำแบบนี้สลับกันไปมาประมาณ 20 ครั้ง เพื่อบริหารกระดูกสันหลังส่วนล่าง และส่วนเอว
- ท่าที่ 5 ให้นอนท่าเดิม ชันเข่าขึ้น แต่เปลี่ยนเป็นการไขว้ขวาไปไว้ข้างใดข้างหนึ่ง จากนั้นให้กางแกนทั้ง 2 ข้างออกและบิดเอวไปข้างใดข้างหนึ่ง ค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที และทำสลับข้างกัน จะเป็นการช่วยบริหารสันหลังให้สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 ท่าทางสำหรับการกายภาพกระดูกสันหลังคด ที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดที่มีความชำนาญ จะช่วยรักษาอาการเจ็บปวดได้ไวมากขึ้นหากได้รับการดูแลและปฏิบัติตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดอย่างเคร่งครัด แต่อย่างไรก็ตาม การกายภาพบำบัดที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาตามอาการของแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อให้ได้ข้อมูลและวิธีการดูแลที่เหมาะสม จะทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้รวดเร็วยิ่งขึ้น